ประวัติของโรช
พัฒนาชีวิตผู้ป่วยให้ดีขึ้นมานานกว่าศตวรรษ
โรชก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1896 ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมัน และอิตาลี โรชนับเป็นบริษัทแรก ๆ ที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อผลิตเภสัชภัณฑ์อันเป็นผลลัพธ์ที่ได้จากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ธุรกิจที่แผ่ขยายออกไปอย่างรวดเร็วในนานาประเทศล้วนมาจากความใจกล้าและเด็ดเดี่ยวของนายฟริทซ์ ฮอฟมันน์ นักธุรกิจจากเมืองบาเซิล ผู้ก่อตั้งบริษัท
นับแต่นั้น โรชได้กุมบังเหียนนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สร้างวิวัฒนาการให้แก่วงการยา ช่วยผู้ป่วยให้มีอายุยืนยาวขึ้นและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย และเพื่อให้โรชยังคงรักษาวัตถุประสงค์นี้ไว้ได้จวบจนทุกวันนี้ โรชจึงมีการปฏิรูปปรับเปลี่ยนตัวเองอย่างต่อเนื่องให้ก้าวทันต่อโลกปัจจุบัน
1890
ขวบปีแห่งการถือกำเนิด
:quality(90)/)
1896
การก่อตั้งบริษัทโรช
บริษัท เอฟ ฮอฟฟ์มันน์-ลา โรช แอนด์ โค กำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ.1896 ณ เมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยนายฟริทซ์ ฮอฟมันน์ ผู้ก่อตั้งได้ปฏิญาณว่าจะช่วยเปลี่ยนโฉมหน้าการให้บริการด้านสาธารณสุขหลังจากได้พบเห็นความสูญเสียอันมหาศาลจากการระบาดของอหิวาตกโรคในเมืองฮัมบูร์ก เขาตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องมีการผลิตยาในรูปแบบอุตสาหกรรม และผู้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึ งยาได้
1897-1910s
ขวบปีแห่งการเติบโต
:quality(90)/)
1912
การขยายสู่ระดับโลกของโรช
โรชขยายสาขาไปทั่วโลก มีผู้ร่วมงานมากกว่า 700 คน ย่างเข้าสู่ปี ค.ศ. 1992 โรชมีสาขาครอบคลุม 9 ประเทศ ใน 3 ภูมิภาค ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส รัสเซีย อิตาลี เยอรมัน อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา
1919-1922
ขวบปีแห่งวิกฤต
:quality(90)/)
1919
สงครามและความพ่ายแพ้
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสงครามกลางเมืองในรัสเซียฉุดให้บริษัทเข้าสู่กับวิกฤตการณ์การเงินครั้งใหญ่ โรชกลายเป็นบริษัทที่มีหุ้นจำกัดเพื่อรักษาไม่ให้บริษัทต้องล้มไป ในปีต่อมา นายฟริทซ์ ฮอฟมันน์ ผู้ก่อตั้งโรชได้เสียชีวิต และเอมิล ซี.บาเรลล์ ได้เข้ามารับตำแหน่งสืบทอด เสริมกำลังธุรกิจวิทยาศาสตร์ให้กับบริษัทโรชแห่งนี้
1920s-1930s
บริษัทแห่งอนาคต
:quality(90)/)
1925
ผู้จัดการทั่วไปเพศหญิงคนแรกของโรช
อลิซ เคลเลอร์ สตรีชาวบาเซิล อายุ 30 ปี เป็นผู้จัดการทั่วไปเพศหญิงคนแรกของโรช เธอเข้ามารับตำแหน่งในปี ค.ศ. 1925 และได้นั่งเรือมายังโตเกียวที่โรชเปิดสาขาอยู่ อลิซยังดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆ หลังกลับมา สวิตเซอร์แลนด์ในปี ค.ศ. 1939 และกลายเป็นผู้บริหารระดับสูงซึ่งมีผลงานโดดเด่นในช่วงเวลานั้น
:quality(90)/)
1929
นักวิทยาศาสตร์หญิงผู้บุกเบิกและทลายกำแพงความเชื่อเดิม ๆ
ฮิลด์ ฟาลทซ์ ร่วมงานกับสถาบันเภสัชวิทยาของโรช และได้กลายมาเป็นผู้นำของโรชในที่สุด ที่โรชแห่งนี้ เธอได้เป็นผู้ริเริ่มนวัตกรรมต่างๆ มากมาย ที่โดดเด่นที่สุดก็คือการทดสอบยารักษาภาวะความผิดปกติแก่ทารกในครรภ์ที่ได้มาตรฐาน ในปี ค.ศ. 1940 ฟาลทซ์ ได้กลายมาเป็นแพทย์ประจำบริษัทโรชท่านแรก
1930s
ระยะเริ่มต้นแห่งความพยายามทางวิทยาศาสตร์
:quality(90)/)
1933
ยุคแห่งวิตามิน
ทาเดอุช ไรช์ชไตน์ นักเคมีชาวโปแลนด์/สวิส ค้นพบวิธีสังเคราะห์วิตามินซีหลังจากใช้เวลาค้นคว้าวิจัยถึง 5 ปี และถือเป็นผลิตภัณฑ์ยาที่รองรับตลาดขนาดใหญ่รุ่นแรก ๆ ที่ผลิตภายใต้เทคนิคปราศจากเชื้อ มีความปลอดภัย ในขนาดและราคาที่เหมาะสม ผลจากความสำเร็จในครั้งนี้ทำให้โรชกลายเป็นผู้จัดหาวิตามินระดับแนวหน้า และเฟืองตัวสำคัญในยุคแรกๆ ที่นำพาบริษัทพุ่งทะยานสู่แวดวงเทคโนโลยีชีวภาพ
1950s-1970s
บุกเบิก ลงทุน พร้อมเสี่ยง
:quality(90)/)
1957
นวัตกรรมด้านมะเร็งวิทยา
หลังจากปูทางด้วยการออกแบบโปรแกรมคัดกรองเนื้องอกและมะเร็งแล้ว บริษัทโรชได้เริ่มเข้าสู่เส้นทางใหม่ที่เปลี่ยนแปลงแบบแผนการบำบัดรักษามะเร็งโดยสิ้นเชิง การค้นพบใหม่ ๆ จากงานวิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์ของโรช เช่น โรเบิร์ต ดูชินสกี (รูปประกอบ) และนักชีวเคมี เช่น ชาร์ลส ไฮเดลเบิร์ก ยิ่งแสดงจุดยืนการเป็นผู้นำในด้านมะเร็งวิทยาของโรชให้ชัดเจนยิ่งขึ้น รวมไปถึงผลงานค้นคว้าวิจัยซึ่งช่วยปรับรูปแบบการรักษามะเร็งประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม และมะเร็งกระเพาะอาหาร
:quality(90)/)
1966
โรชหวนกลับสู่ตลาดเครื่องมือตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์
เริ่มครั้งแรกในทศวรรษ 1920 ณ ตอนนั้นธุรกิจรีเอเจนต์ของโรชมีขนาดเล็ก ๆ และซบเซา บริษัทจึงตัดสินใจตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมาเพื่อทำการผลิตสารเคมีและเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจวินิจฉัยในปี ค.ศ. 1966 ต่อมาในปี ค.ศ. 1968 ผลจากการที่บริษัทได้เข้าไปซื้อกิจการต่าง ๆ ทำให้บริษัทสามารถเก็บเกี่ยวความรู้ความชำนาญที่จำเป็นในส่วนของอิเล็กทรอนิกส์และวิศวกรรมเข้ามาเติมเต็มให้กับธุรกิจ
:quality(90)/)
1968-1972
ก่อตั้งสถาบันวิจัยในนานาประเทศ
ระหว่างปี ค.ศ. 1968 และปี ค.ศ. 1972 โรชได้แผ่กิ่งก้านธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจการวิจัยอิสระด้วยการเปิดศูนย์วิจัยในต่างประเทศ ได้แก่ สถาบันวิจัยชีวโมเลกุลโรชแห่งเมืองนัทลีย์ มลรัฐนิวเจอร์ซีในปี ค.ศ. 1968 สถาบันวิจัยภูมิคุ้มกันแห่งเมืองบาเซิลในปี ค.ศ. 1969 และสถาบันวิจัยนิปปอนที่เมืองคุมาคาระ ประเทศญี่ปุ่น ในปี ค.ศ. 1972
:quality(90)/)
1979
เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ปี ค.ศ. 1979 โรชยังคงขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โรชสาขาเมืองนัทลีย์ได้ร่วมเป็นหุ้นส่วนกับจีเนนเทค บริษัทไบโอเทคในเมืองซานฟรานซิสโกเพื่อพัฒนากระบวนการรักษาโรคสำคัญ ๆ เช่น โรคไวรัสตับอักเสบ โรคปลอกประสาทอักเสบ และโรคมะเร็ง ขณะเดียวกัน ฝ่ายเครื่องมือแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยก็ขยายตัวอย่างไม่หยุดยั้งเช่นกัน
1980s
นักวิทยาศาสตร์ของโรชผู้ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
:quality(90)/)
1984
พลิกโฉมหน้างานวิจัยระบบภูมิคุ้มกัน
นีลส์ ไค เจิร์น ผู้อำนวยการคนแรกจากสถาบันวิจัยภูมิคุ้มกันแห่งบาเซิลได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ในปี ค.ศ. 1984 สำหรับทฤษฎีเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
:quality(90)/)