ยกระดับการรักษามะเร็งปอดด้วยนวัตกรรมใหม่: เพียง 7 นาที
คนไทยป่วยมะเร็งปอดรายใหม่ วันละ 64 คน เสียชีวิตอันดับ 2 ของมะเร็งในไทย1 ปัจจัยจากพันธุกรรม พบได้มากในผู้ป่วยชาวเอเชีย แม้ไม่สูบบุหรี่-ไม่ได้รับฝุ่น PM2.5 เผยนวัตกรรมให้ยาภูมิคุ้มกันบำบัด รูปแบบฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ลดเวลาการรักษาจาก 1 ชั่วโมง เหลือ 7 นาที ประสิทธิภาพ-ความปลอดภัยไม่ต่างจากวิธีเดิม แต่ผู้ป่วยกลับบ้านได้เร็ว รพ.สามารถช่วยคนไข้ได้เพิ่มมากขึ้น
:quality(90)/)
กรุงเทพฯ ประเทศไทย - 12 กรกฎาคม 2567 - ศ.ดร.นพ.วิโรจน์ ศรีอุฬารพงศ์ กล่าวว่า สถานการณ์มะเร็งปอดในปัจจุบัน นับเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่น่า เป็นห่วง ของประเทศไทย และมีผลต่อการเพิ่มภาระทางสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจ ถือเป็น 1 ใน 5 ของมะเร็งที่พบบ่อย เป็นอันดับ 2 ในเพศชาย และอันดับ 5 ในเพศหญิง แต่ละปีจะมีผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 23,494 คน หรือวันละ 64 คน เป็นเพศชาย 15,200 คน และเพศหญิง 8,294 คน ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 19,864 คน หรือคิดเป็น 54 คนต่อวัน1 นับเป็นมะเร็งที่มีอุบัติการณ์ และอัตราการเสียชีวิตที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ในประเทศไทย เป็นปัญหาที่ทางสาธารณสุข ควรเข้ามาแก้ไขอย่างเร่งด่วน
:quality(90)/)
สำหรับปัจจัยเสี่ยงแบ่งออกเป็น
ปัจจัยที่หลีกเลี่ยงได้ การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดมะเร็งปอด ซึ่งร้อยละ 85 ของผู้ป่วยมะเร็งปอดเกิดจากการสูบบุหรี่ ปัจจัยอื่นๆ ที่อาจมีผล ได้แก่ การได้รับมลภาวะทางอากาศ เช่น ฝุ่น PM 2.5, การเผาถ่าน, การสัมผัสกับก๊าซเรดอน และสารก่อมะเร็งอื่น ๆ เช่น แร่ใยหิน โครเมียมและรังสี
ปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น อายุ
“แต่ละปีคนไทยเสียชีวิตด้วยมะเร็งสูงกว่าเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุบนท้องถนนถึง 6 เท่า1,2 อุบัติการณ์ และอัตราการเสียชีวิตด้วยมะเร็งปอดในประเทศไทยสูงเป็นอันดับ 2 เมื่อเทียบกับมะเร็งชนิดต่างๆ นำมาซึ่งการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของคนไทย1 โดยกว่า 80% ของผู้ป่วยมะเร็งปอดเสียชีวิตภายใน 5 ปี3” ศ.ดร.นพ.วิโรจน์ กล่าว
รศ. นพ. วิเชียร ศรีมุนินทร์นิมิต กล่าวว่า โรคมะเร็งปอดมี 2 ชนิด 1. มะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก และ 2. มะเร็งปอด ชนิดเซลล์ไม่เล็ก วิธีในการรักษาโรคมะเร็งปอดมีหลายวิธีแตกต่างกัน การพิจารณาเลือกวิธีในการรักษา ขึ้นกับชนิด และระยะของมะเร็งปอดตลอดจนสภาพร่างกายของผู้ป่วยเป็นสำคัญซึ่งในปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่มักจะรู้จักเพียงการ ผ่าตัด การฉายแสง หรือ การฉายรังสี และการให้ยาเคมีบำบัด4 เนื่องจากเป็นการรักษา ที่มีมานาน และคนไทยมีความ คุ้นชิน
:quality(90)/)
ปัจจุบันการรักษามะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็ก มีวิวัฒนาการความก้าวหน้าของการรักษาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่สามารถรักษาได้อย่างเฉพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็งมากยิ่งขึ้น และลดอาการข้างเคียงจากการ ใช้ยาเคมีบำบัดในรูปแบบเดิม ทำให้การรักษาได้ผลดีขึ้น เพิ่มอัตราการรอดชีวิต หรือสามารถควบคุมโรคได้ดียิ่งขึ้น
ได้แก่
การรักษาแบบเฉพาะเจาะจง (targeted therapy) หรือการรักษาโดยใช้ยามุ่งเป้า โดยการใช้ยาที่ ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง ทำให้ให้ประสิทธิผลในการรักษาดีขึ้นและและมีผลข้างเคียงต่อเซลล์ปกติน้อย และ
การใช้ยาภูมิคุ้มกันบำบัด (immunotherapy) เป็นยากลุ่มใหม่ที่ออกฤทธิ์ในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ของร่างกาย ให้สามารถกำจัดเซลล์มะเร็งได้ ปัจจุบัน มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยจะมีรูปแบบการบริหารยาเป็นการฉีดเข้าเส้นเลือดดำ ทางสายน้ำเกลือ
ขณะที่ นายแพทย์ ยศวัจน์ รุ่งโรจน์วัฒนา กล่าวว่ายาภูมิคุ้มกันบำบัดที่นำมารักษา คนไข้ มะเร็งปอดทั้งในส่วนของเป็นยาเดี่ยว หรือการใช้ ร่วมกับยาเคมีบำบัด ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ดี และมีผลข้างเคียงที่ควบคุมได้ โดยครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ที่ยาในกลุ่มภูมิคุ้มกันบำบัด ซึ่งแต่เดิมจะบริหารยาด้วยวิธีฉีดเข้าเส้นเลือดดำแต่ในปัจจุบัน มีนวัตรกรรมใหม่ ที่มีการนำ Halozyme Therapeutics’ drug delivery technology (Enhanze®; rHuPH20) มาใช้ในการนำส่งยาซึ่งในอดีต การฉีดยาใต้ผิวหนังจะสามารถที่จะฉีดยาได้ปริมาณเพียง 1-2 มิลลิลิตร แต่ด้วยการมี นวัตกรรมที่ผสม ไฮยาลูโรนิคเดสเข้าไปเพื่อสลายไฮยาลูโรแนนเพื่อทำให้ช่องว่างชั่วคราวภายใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้สามารถเพิ่ม การนำส่ง ยาใต้ผิวหนังได้ปริมาณที่มากขึ้น โดยนำนวัตกรรมนี้มาใช้ในยาหลากหลายไม่ว่าเป็นยารักษามะเร็ง ยาเบาหวาน รวมถึง ยาในกลุ่มภูมิคุ้มกันบำบัด5,6 โดยจากการศึกษาทางคลินิก พบว่าการให้ยาด้วยวิธีทางใต้ผิวหนัง เทียบกับการให้ยา ทางหลอดเลือดำมีประสิทธิภาพและความปลอดภัย ไม่แตกต่างจากการบริหารยาด้วยวิธีเดิม แต่สามารถที่จะลด ระยะเวลาในการบริหารยาได้ลดลง จาก 1 ชั่วโมงเหลือเพียงแค่ 7 นาที7
:quality(90)/)
“ระยะเวลาในการบริหารยาลดลงทำให้ คนไข้สามารถที่จะกลับบ้านได้อย่างรวดเร็ว สามารถไปใช้ชีวิต ประจำวันได้ตามที่ต้องการ ส่วนโรงพยาบาลและบุคลลากรทางการแพทย์ สามารถที่จะช่วยเหลือคนไข้ หรือสามารถที่จะเพิ่ม ประสิทธิภาพของหน่วยมะเร็งได้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ การบริหารยาด้วยวิธีการฉีดยาเข้าใต้ผิวหนัง จำเป็นจะต้องวางแผนการรักษา ระหว่าง อายุรแพทย์โรคมะเร็งกับคนไข้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับคนไข้” นายแพทย์ ยศวัจน์ กล่าว
อ้างอิง:
https://gco.iarc.who.int/media/globocan/factsheets/populations/764-thailand-fact-sheet.pdf
สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร สถิติปี 2565: https://www.otp.go.th/uploads/tiny_uploads/PDF/2566-11/RoadAccidentAna2565_final.pdf
https://ourworldindata.org/cancer (Five year survival rates from lung cancer, 2009; Assessed on 27 June 2024)
https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/lung-cancer
Jackisch, et al. Geburtshilfe Frauenheilkd 2014
Frost. Expert Opin Drug Deliv 2007
IMscin001 Part 2: a randomized phase III, open-label, multicentre study examining the pharmacokinetics, efficacy, immunogenicity, and safety of atezolizumab subcutaneous versus intravenous administration in previously treated locally advanced or metastatic non-small-cell lung cancer and pharmacokinetics comparison with other approved indications. M. Burotto, Z. Zvirbule, A. Mochalova, Y. Ru๙nglodvatana