การวิจัยในคน (Clinical Trial) คืออะไร?

การวิจัยในคน (Clinical Trial) คือ กระบวนการที่นักวิจัยจะเอายาที่ผ่านการทดลองในหลอดทดลอง และในสัตว์ จนมีข้อมูลความปลอดภัยมาแล้วในระดับหนึ่ง มาทดลองให้คนได้ใช้ เพื่อที่จะทำให้เรามีข้อมูลความปลอดภัยในคนและประสิทธิภาพของยาในการรักษาโรค โดยการวิจัยในคนจะทำที่โรงพยาบาล และมีทีมแพทย์, พยาบาล, เภสัชกร, และผู้ประสานงาน ช่วยกันดูแลอาสาสมัครที่เข้าร่วมการวิจัยในคน ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำวิจัยในคน จะต้องผ่านการอบรม “การปฏิบัติการวิจัยทางคลินิกที่ดี (Good Clinical Practice: GCP)” เพื่อเป็นการรับรองว่าจะปฏิบัติกับอาสาสมัครอย่างมีจริยธรรมและ ให้ความสำคัญกับ สิทธิ, ความปลอดภัย, และความเป็นอยู่ของอาสาสมัครมากกว่าผลของการศึกษาวิจัย

รู้หรือไม่ เวลามีโรคใหม่อย่าง “โควิด 19” เกิดขึ้น เราจะต้องรับมืออย่างไร หากติดตามข่าวจากสื่อต่างๆ อาจได้ยินว่าวัคซีนแต่ละตัวนั้นมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ เคยสงสัยหรือไม่ว่าข้อมูลเหล่านี้คืออะไรและมาจากไหน คำตอบก็คือมันเป็นผลการศึกษาจาก “การวิจัยในคน” ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญมากๆ ที่จะทำให้เรามียาหรือวิธีการรักษาใหม่ๆ มาใช้จัดการกับโรคเหล่านี้ หากไม่มีการวิจัยในคนก็จะไม่มียาหรือวัคซีนเพื่อรักษาและป้องกันโรคใหม่ๆ เกิดขึ้น ลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและผู้ดูแล

เมื่อยาหรือวัคซีนผ่านการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ (หรือห้องแล็บ) และการทดสอบในสัตว์ทดลอง เช่น หนู กระต่าย สุนัข และลิง เพื่อยืนยันความปลอดภัยแล้ว จึงเข้าสู่ขั้นตอนการวิจัยในคน โดยเริ่มประกาศรับอาสาสมัครที่มีคุณสมบัติสอดคล้องกับเกณฑ์มาเข้าร่วมการวิจัย นั่นแปลว่า อาสาสมัครจะมีโอกาสได้เข้าถึงยาหรือวัคซีนที่มีความปลอดภัยแล้วในระดับหนึ่ง ก่อนที่ยาหรือวัคซีนนั้นๆ จะออกสู่ท้องตลาด

  • ระยะที่ 1 เป็นการศึกษาขนาดยา (dose) ที่ปลอดภัยกับอาสาสมัคร 

  • ระยะที่ 2 เป็นการยืนยันประสิทธิภาพในการรักษา จึงเพิ่มจำนวนอาสาสมัครให้มากขึ้น

  • ระยะที่ 3 เป็นการยืนยันผลการศึกษาทั้งด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพการรักษาในกลุ่มอาสาสมัครจำนวนมาก เพื่อให้สะท้อนการใช้งานจริงได้ใกล้เคียงที่สุด
     

ที่สำคัญ ในทุกระยะของการวิจัย จำเป็นจะต้องติดตามผลการรักษาและผลข้างเคียงในระยะยาวซึ่งอาจใช้เวลารวมมากกว่าสิบปี ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการวิจัยในคนมีความละเอียดอ่อนและคำนึงถึงสวัสดิภาพของอาสาสมัครเป็นอย่างมาก

หลังจากที่ได้ผลการวิจัยในคนออกมาแล้ว ยาก็ยังไม่สามารถนำออกสู่ท้องตลาดได้ เพราะยังต้องผ่านขั้นตอนการขึ้นทะเบียนจากหน่วยงานรัฐก่อน ในประเทศไทย หน่วยงานที่กำกับดูแล คือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดย อย. จะตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตยา, วิธีการควบคุมคุณภาพยา, ผลการรักษาและความปลอดภัยของยา เมื่อพิจารณาว่ามีข้อมูลเพียงพอแล้ว ยาจึงได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายในประเทศไทยได้

เพื่อช่วยให้โลกของเราพร้อมรับมือกับโรคใหม่ๆ แนวทางการรักษาหรือการป้องกันโรคจึงเป็นสิ่งที่ต้องพัฒนาให้ทันสมัยอยู่เสมอ แม้ “การวิจัยในคน” จะเป็นขั้นตอนเบื้องหลัง แต่กลับมีความจำเป็นชนิดที่ขาดไม่ได้ และต้องอาศัยอาสาสมัครจำนวนมากที่อุทิศตน เพื่อความก้าวหน้าทางการแพทย์และประโยน์ของมวลมนุษยชาติ

การวิจัยในคนเป็นขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับการพัฒนายาใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อยืนยันถึงประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของยาก่อนนำมาใช้จริง ซึ่งอาจเป็นความหวังสำหรับโรคร้ายแรงที่ยังไม่มียาในการรักษา
 

โรคร้ายแรง คือโรคใดๆก็ตาม ที่สร้างความเจ็บปวดทรมาน ต้องการการรักษาโดยแพทย์และเครื่องมือเฉพาะทาง ใช้เวลาในการรักษายาวนาน จนส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและผู้ดูแล รวมทั้งอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่ทว่าโรคร้ายแรงบางชนิดกลับยังไม่มีแนวทางการรักษาที่เฉพาะเจาะจง หรือเป็นเพียงการรักษาเพื่อประคองอาการเท่านั้น เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งบางชนิด

เป็นที่แน่นอนว่า ความก้าวหน้าด้านการแพทย์ ณ ปัจจุบันทำให้ทราบถึงสาเหตุ กลไกการเกิดโรค รวมไปถึงวิธีการรักษาใหม่ๆที่อาจเป็นไปได้ เช่น ยารักษามะเร็งชนิดใหม่ที่มีความเฉพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็งมากขึ้น ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาและลดผลข้างเคียงลง ยารักษาโรคติดเชื้อ ที่ยับยั้งเชื้อได้มากขึ้น ใช้เวลาในการรักษาน้อยลง ยาที่รักษาโรคที่ยังไม่เคยมียามาก่อนอย่างไวรัสโคโรนา อย่างไรก็ตาม ยาใหม่เหล่านี้จะต้องผ่านโครงการวิจัยในคนมาก่อน ซึ่งกว่าจะผ่านการขึ้นทะเบียนยาอาจใช้เวลาร่วมสิบปี ดังนั้นโครงการวิจัยในคนจึงอาจเป็นความหวัง และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ป่วยโรคร้ายแรง

ผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการวิจัย ในคนจะได้รับยาที่มีประสิทธิภาพไม่ด้อยไปกว่าการรักษามาตรฐานที่มีอยู่ในปัจจุบัน แพทย์ผู้วิจัยมีการดูแลติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิด ดังนั้นผู้ป่วยจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับความปลอดภัยขณะร่วมการวิจัย แบ่งเบาภาระและความกังวลใจของผู้ป่วย เช่น ค่ายา ค่าตรวจทางห้องปฎิบัติการ ซึ่งโครงการวิจัยจะช่วยครอบคลุมสิ่งเหล่านี้ให้ทั้งหมด

การเข้าร่วมโครงการวิจัยจึงอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ป่วยโรคร้ายแรงที่ยังไม่มีแนวทางในการรักษา หรือผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษามาตรฐาน แต่ทั้งนี้จะเข้าร่วมได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนดของโครงการวิจัยนั้นๆ โดยแพทย์ผู้วิจัยจะเป็นผู้ประเมิน เพื่อให้เกิดประโยชน์และความปลอดภัยสูงสุดกับผู้ป่วย

M-TH-00000935
M-TH-00001078

บทความเพิ่มเติม

ดูบทความทั้งหมด

This website contains information on products which is targeted to a wide range of audiences and could contain product details or information otherwise not accessible or valid in your country. Please be aware that we do not take any responsibility for accessing such information which may not comply with any legal process, regulation, registration or usage in the country of your origin. which is targeted to a wide range of audiences and could contain product details or information otherwise not accessible or valid

ติดต่อสาขาของโรชlinkedinfacebooktwitterinstagramyoutubeเกี่ยวกับโรชหน่วยธุรกิจยาร่วมงานกับเราข่าวสารบทความRoche Privacy PolicyRoche Privacy Notice (HCPs)Roche Privacy Policy for PatientsRoche Privacy Policy for Contract PartiesRoche Privacy & Communication TermsLegal statementCCTV Privacy